ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
การทำงานของระบบผิวหนังระบบกระดูก และระบบกล้ามเนื้อ

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กลุ่มเซลล์ที่มารวมกลุ่มกันเพื่อทำหน้าที่อย่างเดียวกันเรียกว่าอะไร
       ก.   อะตอม
       ข.   โมเลกุล
       ค.   เนื้อเยื่อ                  
       ง.   ระบบอวัยวะ
  2. ข้อใดไม่ใช่วิธีการสร้างเสริมและดำรงประสิทธิภาพ             การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
       ก.   พักผ่อนอย่างเพียงพอ
       ข.   ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
       ค.   รับประทานยาบำรุงหรืออาหารเสริม
       ง.   รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่
   3.  กล้ามเนื้อหัวใจมีลักษณะอย่างไร
       ก.   ยึดเกาะอยู่กับกระดูก
       .   พบมากที่สุดในร่างกาย
       .   ประกอบด้วยเซลล์กระบอกยาว
       .   เป็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อลายชนิดพิเศษ
   4.  ใครสร้างเสริมและดำรงประสิทธิภาพการทำงานของเล็บได้ถูกต้อง เหมาะสม
       ก.   ดลตัดเล็บให้สั้นจนชิดผิวหนังส่วนปลายนิ้ว         
       ข.   ดิวใช้แปรงกับผมซักฟอกถูเบาๆ บริเวณเล็บ
       ค.   ดาวนวดนิ้วมือและนิ้วเท้าเป็นประจำ                    
       ง.   แดนใช้เล็บไขน๊อต
   5.  การสร้างเม็ดสีเมลานินในต่อมขนลดน้อยลงจะทำให้เกิดผลอย่างไร       
       ก.   ผมขึ้นใหม่         ข.   ผมหงอก
       ค.   ผมร่วง              ง.   ขนลุก
6. ข้อใดกล่าวถึงกล้ามเนื้อในร่างกายได้ถูกต้องที่สุด
       ก.   มี 1 ชนิด คือ กล้ามเนื้อลาย
       ข.   มี 2 ชนิด คือ กล้ามเนื้อลาย และกล้ามเนื้อเรียบ
       ค.   มี 3 ชนิด คือ กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อเรียบ
            และกล้ามเนื้อหัวใจ
       ง.   มี 4 ชนิด คือ กล้ามเนื้อลาย กล้ามเนื้อเรียบ
            กล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเนื้อโครงร่าง
   7.  กระดูกบริเวณขาและแขนจัดเป็นกระดูกประเภทใด
       ก.   กระดูกแกน          
       ข.   กระดูกสั้น
       ค.   กระดูกรยางค์        
       ง.   กระดูกแบน
   8.  ระบบกล้ามเนื้อมีหน้าที่อย่างไร
       ก.   เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย
       ข.   รักษาอุณหภูมิของร่างกาย
       ค.   ปกคลุมทุกส่วนของร่างกาย
       ง.   ทำให้ร่างกายคงรูปร่างอยู่ได้
   9.  ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของระบบโครงกระดูก
       ก.   สร้างเม็ดเลือดแดง
       ข.   เป็นแหล่งสะสมพลังงาน
       ค.   เป็นโครงสร้างของร่างกาย
       ง.   เป็นแหล่งสะสมแคลเซียม
10.  สารที่เรียกว่า เมลานิน จะอยู่ส่วนใดของร่างกาย
       ก.   บริเวณต่อมใต้สมอง   
       ข.   ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า
       ค.   ผิวหนังชั้นหนังแท้             
       ง.   บริเวณกล้ามเนื้อเรียบ



หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
การวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. นักเรียนจะเริ่มต้นการวางแผนดูแลสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัวได้อย่างไร
       ก.   วางแผน           
       ข.   ดำเนินการ
       .   ประเมินผล       
       .   สำรวจข้อมูล
   2.  การดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัวมีคุณค่าสูงสุด ในเรื่องใด
       ก.   ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ
       ข.   ครอบครัวอบอุ่น รักใคร่กลมเกลียวกัน
       ค.   ส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตนเองและบุคคลในครอบครัว
       ง.   สามารถกำหนดช่วงเวลาในการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม
   3.  ข้อใดไม่จัดว่าเป็นการวางแผนการดูแลสุขภาพ
       ก.   ดูแลเรื่องการพักผ่อน                      
       ข.   ดูแลเรื่องการประกอบอาชีพ
       ค.   ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล                          
       ง.   ดูแลเรื่องอาหารในแต่ละวัน
   4.  บุคคลในข้อใดควรได้รับการวางแผนดูแลสุขภาพ
       ก.   ทุกช่วงวัย          ข.   วัยเด็ก
       ค.   วัยชรา              ง.   วัยรุ่น
   5.  ข้อใดเกิดขึ้นหลังสุดในการดูแลสุขภาพ
       ก.   การมีเจตคติที่ดีด้านสุขภาพ
       ข.   การเห็นคุณค่าด้านสุขภาพ
       ค.   พฤติกรรมด้านสุขภาพ
       ง.   ความรู้ด้านสุขภาพ
6. ข้อใดสอดคล้องกับคำว่า กันไว้ดีกว่าแก้                    
       ก.   นก ปฏิบัติตนในการดูแลสุขภาพ
       ข.   แนน ป้องกันตนเองไม่ให้เจ็บป่วย
       ค.   นุ่น วางแผนดูแลสุขภาพตนเอง
       ง.   เนย วางแผนในการมีชีวิตครอบครัวที่ดี
   7.  บุคคลในข้อใดดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง
       ก.   แอม รับประทานอาหารฟาสต์ฟูดส์
       ข.   โอ๋ ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-5 วัน
       ค.   ออย ดื่มสุราเฉพาะเมื่อมีงานสังสรรค์เท่านั้น
       ง.   เอม รับประทานขนมปังในตอนเช้าเป็นบางมื้อ
   8.  ถ้าบุคคลในครอบครัวไม่มีการวางแผนดูแลสุขภาพนักเรียนคิดว่าจะมีผลต่อสุขภาพโดยรวมอย่างไร
       ก.   สุขภาพกายและสุขภาพจิตเสื่อมโทรม              
       ข.   มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูง
       ค.   สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดี           
       ง.   สุขภาพกายเสื่อมโทรม
   9.  นักเรียนวางแผนในการดูแลสุขภาพเพื่อประโยชน์ในข้อใดมากที่สุด
       ก.   เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์               
       ข.   เพื่อให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดี
       ค.   เพื่อความปลอดภัย
       ง.   เพื่อคลายเครียด
10.  ผลของการดูแลสุขภาพในข้อใดชัดเจนมากที่สุด
       ก.   คลายเครียด                    
       ข.   ครอบครัวอบอุ่น
       ค.   ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วย   
       ง.   ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ



หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
พฤติกรรมทางเพศและการดำเนินชีวิต

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. วัยรุ่นช่วงใดที่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวเพราะมีน้ำหนักและส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
       ก.   วัยรุ่นตอนต้นและตอนกลาง
       ข.   วัยรุ่นตอนปลาย
       ค.   วัยรุ่นตอนกลาง
       ง.   วัยรุ่นตอนต้น
  2.  ปัจจัยข้อใดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นมากที่สุด
       ก.   เพื่อน              
       ข.   สังคม
       ค.   ครอบครัว         
       ง.   วัฒนธรรม
  3.  ข้อใดไม่มีอิทธิพลต่อค่านิยมทางเพศของบุคคล
      ก.   ประสบการณ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี
      ข.   ครอบครัว โรงเรียน
       ค.   สังคม วัฒนธรรม
       ง.   เพื่อน คนรัก
  4.  ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ของวัยรุ่น
       ก.   พัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจ
       ข.   การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
       ค.   พัฒนาการทางร่างกาย
       ง.   ความมั่นคงของชีวิต
  5.  อิทธิพลทางเพศในข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่มาจากครอบครัว
       ก.   ความสัมพันธ์ในครอบครัว
       ข.   ความศรัทธาในศาสนา
       ค.   การจับกลุ่มกับเพื่อนเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ
       ง.   การปลูกฝังเจตคติที่ดีในเรื่องบทบาทของชายหญิง

6. บุคคลในข้อใดแสดงพฤติกรรมทางเพศได้เหมาะสมที่สุด
       ก.   นาย พาสาวไปดูหนังโป๊
       ข.   นัด แอบไปมีเพศสัมพันธ์กับออมที่หอพัก
       ค.   อ้น พาก้อยนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปอยู่ในที่                    ลับตาคนสองต่อสอง
       ง.   น้อย ขอโทษหน่า เมื่อเหวี่ยงมือไปโดนหัวไหล่          ของเธอ
  7.  หากเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นไม่ควรทำสิ่งใด
      ก.   หางานอดิเรกทำ
      ข.   อ่านหนังสือที่สนใจ
      ค.   เล่นกีฬากับกลุ่มเพื่อน
      ง.   มีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม
  8.  เมื่อนักเรียนมีอารมณ์ทางเพศ นักเรียนควรระบายอารมณ์ทางเพศแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
      ก.   ชวนเพื่อนไปดื่มสุรา
      ข.   ชวนเพื่อนไปเที่ยวกลางคืน
      ค.   ชวนเพื่อนไปดูภาพยนตร์
      ง.   ชวนเพื่อนไปเล่นกีฬาหรือกิจกรรมที่ตนชอบ
  9.  พฤติกรรมทางเพศ มีความหมายตรงกับข้อใด
       ก.   กลุ่มคนที่ร่วมมือกัน อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและมีวัฒนธรรมที่เด่นชัด
       ข.   ความสามารถในการให้ความรู้ ความเข้าใจในด้านพฤติกรรมทางเพศ
       ค.   ความคิด ทัศนคติ และการแสดงออกของบุคคลที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ
      ง.   สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต
10.  ข้อใดเป็นการเห็นคุณค่าของตนเอง
      ก.   มองโลกในแง่ร้าย        ข.   เกิดความรักตนเอง
       ค.   ใช้สารเสพติด ดื่มสุรา     ง.   ขาดความภูมิใจในตนเอง

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ค่านิยมทางเพศกับวัฒนธรรม

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดเป็นประเพณีไทยที่ดีงามเกี่ยวกับเรื่องเพศ
       ก.   พิธีโกนจุก
       ข.   พิธีบายศรีสู่ขวัญ
       ค.   พิธีรดน้ำดำหัว
       ง.   พิธีสู่ขอและพิธีมงคลสมรส
  2.  ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มองเรื่องเพศศึกษาในลักษณะใด
       ก.   เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 
       ข.   เป็นเรื่องที่ไม่ควรเปิดเผย
       ค.   เป็นเรื่องที่วัยรุ่นไม่ควรเรียนรู้
       ง.   เป็นเรื่องที่ควรให้ความรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
   3.  ค่านิยมทางเพศในข้อใดที่วัยรุ่นหญิงควรยึดถือและปฏิบัติมากที่สุด
       ก.   ไม่แสดงออกเมื่อรู้สึกว่าชอบเพื่อนต่างเพศ
       ข.   ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
       ค.   แต่งกายให้เหมาะสม
       ง.   รักนวลสงวนตัว
  4. ข้อใดเป็นความเบี่ยงเบนทางเพศที่เรียกว่า Homosexual
       ก.   พฤติกรรมที่ชอบทั้ง 2 เพศ
       ข.   พฤติกรรมผู้ชายแอบชอบผู้หญิง
       ค.   พฤติกรรมชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง
       ง.   พฤติกรรมทางเพศที่สนใจเพศตรงข้าม
   5.  ข้อใดไม่ใช่แรงผลักดันที่ทำให้วัยรุ่นยุคใหม่กล้าแสดงพฤติกรรมทางเพศออกมาอย่างชัดเจน
       ก.   ขาดการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง
       ข.   เพื่อต้องการการยอมรับจากสังคม
       ค.   เลียนแบบดารานักร้องชื่อดัง
       ง.   ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
6. พฤติกรรมของผู้หญิงในข้อใดเป็นการป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ดีที่สุด
       ก.   แต่งกายสุภาพไม่ยั่วยุ
       ข.   ไม่แยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน
       ค.   ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ชายถูกเนื้อต้องตัว
       ง.   ไม่อยู่ในที่ลับตาเพียงลำพังสองต่อสอง
  7. บุคคลในข้อใดมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางผิดปกติทางเพศ
       ก.   แมน ชวนเพื่อนหญิงไปกินข้าวตอนกลางวัน
       ข.   ไมค์ แอบมองเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ห้องเดียวกัน
       ค.   กอล์ฟ ชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงเพื่ออวดสาวๆ
       ง.   บีม ชอบยืนเบียดผู้หญิงในรถโดยสารและเลือกคันที่มีผู้โดยสารเยอะๆ
   8.  ปัจจัยข้อใดที่มีอิทธิพลต่อค่านิยมทางเพศของวัยรุ่น   มากที่สุด
       ก.   วัฒนธรรม          ข.   ครอบครัว
       ค.   สังคม               ง.    เพื่อน
  9. ค่านิยมใดเหมาะสมกับวัฒนธรรมไทยมากที่สุด
       ก.   ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องระมัดระวังตัวมาก
       ข.   ผู้ชายเดินนำหน้าผู้หญิงเวลาจับจ่ายซื้อของ
       ค.   ผู้หญิงต้องเสียสละที่นั่งให้กับเด็กหรือคนชรา
       ง.   ผู้ชายและผู้หญิงควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยและเหมาะสมกับกาลเทศะ
10.  ข้อใดกล่าวถึงบทบาททางเพศได้ถูกต้องที่สุด
       ก.   ผู้หญิงต้องทำหน้าที่แม่และให้นมบุตร
       ข.   ผู้ชายห้ามทำงานนอกบ้านในเวลากลางคืน
       ค.   ผู้หญิงต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ห้ามทำงานนอกบ้าน
       ง.   ผู้ชายมีหน้าที่ทำงานบ้าน และผู้หญิงสามารถทำงานนอกบ้านได้



หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
สัมพันธภาพระหว่างนักเรียนในชุมชน

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. บุคคลวัยใดที่ควรมองเห็นความสำคัญของการสร้างและรักษาสัมพันธภาพมากที่สุด
       ก.   วัยทำงาน
       ข.   วัยรุ่น
       ค.   วัยเด็ก
       ง.   วัยผู้ใหญ่
   2.  สิ่งที่เกิดขึ้นจากการสร้างสัมพันธภาพที่ดีคืออะไร
       ก.   มีความอบอุ่น มีความสุข
       ข.   ทำให้คนในกลุ่มเชื่อถือ
       ค.   ปมเด่น ปมด้อย
       ง.   การแข่งขัน
   3.  การสร้างสัมพันธภาพทางด้านใดที่มีลักษณะเป็นวงกว้างมากที่สุด
       ก.   ครอบครัว
       ข.   โรงเรียน
       ค.   สังคม              
       ง.   เพื่อน
   4.  สถาบันใดที่มีการสร้างสัมพันธภาพที่ผูกพันแน่นแฟ้น มากที่สุด
       ก.   ครอบครัว          .   โรงเรียน
       ค.   ชุมชน               .    สังคม
  5. การที่เราจะสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนอื่นจะต้องทำอย่างไรเป็นลำดับแรก
       ก.   เข้าใจความต้องการของผู้อื่น
       ข.   มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
       ค.   ยิ้มแย้มแจ่มใส
       ง.   มองโลกในแง่ดี
6. ข้อใดไม่ใช่หลักการสร้างสัมพันธภาพระหว่างเพื่อน
       ก.   ให้เกียรติกันและกัน
       .   ยึดมั่นในตนเอง
       ค.   ยอมรับความแตกต่าง 
       .   หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
   7.  เพราะเหตุใด มนุษย์จึงต้องมีการสร้างสัมพันธภาพที่ดี   ต่อกัน
       ก.   มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคม
       ข.   มนุษย์มีการแก่งแย่งแข่งขัน
       ค.   เพื่อให้มีเพื่อนที่หลากหลาย
       ง.   เพื่อผลประโยชน์ในหน้าที่การงาน
   8.  ข้อใดไม่ใช่สัมพันธภาพที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต
       ก.   เพื่อน               ข.   สังคม
       ค.   วัตถุ                 ง.    ครอบครัว
   9.  ข้อใดกล่าวถึงสัมพันธภาพไม่ถูกต้อ
       ก.   ทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า
       ข.   ทำให้รู้สึกอบอุ่นมีชีวิตชีวา
       ค.   เป็นการอยู่ในโลกส่วนตัวอย่างมีความสุข
       ง.   เป็นความเกี่ยวเนื่อง หรือสมาคมกับคนอื่น
10.  กิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์ให้วัยรุ่นได้ค้นพบตนเอง รู้คุณค่าของตนเอง มีความเชื่อมั่น คือโครงการใด
       ก.   โครงการกิจกรรมค่ายสร้างสรรค์คุณคนใหม่ของ 6Q Society
       ข.   โครงการฝึกอบรมหลักสูตรแกนนำเครือข่าย
       ค.   โครงการวัยกระเตาะรู้ทันภัยสังคม
       ง.   โครงการรวมพลังเยาวชนไทย



หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
การใช้ยาและสารเสพติด

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การติดยาชูกำลังเกิดจากสาเหตุใด
       ก.   สาเหตุจากร่างกายเกิดอาการง่วงซึม
       ข.   สาเหตุจากร่างกายมีอาการปวดเมื่อย
       ค.   สาเหตุจากการอ่อนเพลียเนื่องจากทำงานหนัก
       ง.   สาเหตุจากร่างกายต้องการพลังงานทดแทน
   2.  การใช้ยาแก้ง่วง เป็นสาเหตุสำคัญในการนำไปสู่การติดสารเสพติดประเภทใด
       .   ยาบ้า
       .   ยาแก้แพ้
       ค.   ยาแก้ปวด
       ง.   ยาสเตียรอยด์
   3.  ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของการติดยา
       ก.   การเลือกซื้อยาราคาถูก
       ข.   การหลงเชื่อคำโฆษณา
       ค.   ยามีสีสันน่ารับประทาน
       ง.   การซื้อยาตามความนิยม
   4.  ยาเสพติดประเภทใดมีฤทธิ์หลอนประสาท
       ก.   แอมเฟตามีน           
       .   เห็ดขี้ควาย
       ค.   กระท่อม
       ง.   โคเคน
   5.  ข้อใดจัดเป็นสารเสพติดธรรมชาติ
       ก.   โคเคน ทินเนอร์                
       ข.   เฮโรอีน มอร์ฟีน 
       ค.   เห็ดขี้ควาย กัญชา ฝิ่น                     
       ง.   แอลเอสดี กาว แอมเฟตามีน
6. ลักษณะอาการที่เกิดจากการใช้ยาลดความอ้วนเป็นอย่างไร
       ก.   หงุดหงิด เวียนศีรษะ
       ข.   รู้สึกง่วงอยู่ตลอดเวลา
       ค.   ใจสั่น ง่วงนอน  ท้องผูก
       ง.   กระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา
   7.  หากเกิดอาการแพ้ยา ควรปฏิบัติอย่างไร
       ก.   เปลี่ยนยาทันทีที่รู้ว่าแพ้
       ข.   ลดปริมาณยาลงจากเดิม
       ค.   ซื้อยาแก้แพ้มารับประทาน
       ง.   หยุดใช้ยาทันทีและจดชื่อยาไว้
   8.  ข้อใดไม่จัดเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง
       ก.   มองโลกในแง่ร้าย
       ข.   เห็นอกเห็นใจผู้อื่น
       ค.   มีทักษะในการปฏิเสธ
       ง.   ตระหนักในคุณค่าของตนเอง
  9. ข้อใดมีความสำคัญที่สุดในการสร้างความเข้มแข็งและป้องกันปัญหาสารเสพติด
       ก.   ชุมชน                   
       .   โรงเรียน
       ค.   ครอบครัว
       .   หน่วยงานภาครัฐ
10.  สภาพครอบครัวในข้อใดนำไปสู่ปัญหาสารเสพติดในชุมชน
       ก.   สภาพครอบครัวที่มีกิจกรรมร่วมกัน
       ข.   สภาพครอบครัวที่มีฐานะยากจน
       ค.   สภาพครอบครัวที่แตกแยก
       ง.   สภาพครอบครัวที่อบอุ่น

หน่วยการเรียนรู้ที่ 7
ความรุนแรงในสังคม

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1. ข้อใดเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน
       ก.   ความกังวลเนื่องจากการเดินทางไม่ปลอดภัย
       ข.   พ่อแม่ทำโทษลูกด้วยการตบตีลูกจนได้รับบาดเจ็บ
       ค.   ความเครียดที่เกิดจากการถูกบังคับให้เรียนพิเศษ
       ง.   การเผยแพร่ภาพลามกทางสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลาย
   2.  ข้อใดไม่จัดเป็นพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง
       ก.   นัดต้องรดน้ำต้นไม้ในสวนทุกวัน
       ข.   นุ่มถูกพ่อทำร้ายทุกครั้งเมื่อพ่อเมา
       ค.   น้อยถูกเพื่อนกระชากกระเป๋าจนล้ม
       ง.   อ้นโดนเพื่อนต่อว่าอย่างรุนแรงจนสภาพจิตใจย่ำแย่
   3.  การทำร้ายผู้สูงอายุในครอบครัวจะพบในลักษณะใด
       ก.   การไม่ใส่ใจเรื่องอาหารและที่อยู่อาศัย
       ข.   การทำร้ายร่างกาย
       ค.   การคุกคามทางเพศ
       ง.   การข่มขู่
   4.  พ่อแม่มีแนวคิดแบบบริโภคนิยม จัดเป็นปัญหาความรุนแรงระดับใด
       ก.   ความรุนแรงในชุมชน
       ข.   ความรุนแรงในครอบครัว
       ค.   ความรุนแรงในโรงเรียน
       ง.   ความรุนแรงในสังคม
   5.  ลักษณะความรุนแรงในครอบครัวข้อใดจัดเป็นการทำร้ายจิตใจ
       ก.   พูดชมเชยลูกมากจนเกินความเป็นจริง
       ข.   พูดจาหยาบคายกับลูกต่อหน้าเพื่อนในโรงเรียน
       ค.   พ่อแม่ปรึกษาและตำหนิลูกเพียงลำพังเมื่ออยู่ในบ้าน
       ง.   ไม่ชมเชยลูกเมื่อลูกทำความดี  หรือช่วยเหลือ    ภาระงาน

6. ค่านิยมในสังคมไทยข้อใดนำไปสู่การใช้ความรุนแรง
       ก.   ผู้ชายจะต้องให้เกียรติผู้หญิง
       ข.   หญิง-ชาย มีความเสมอภาค
       ค.   ร่างกายเป็นสมบัติส่วนบุคคล
       ง.   ความรุนแรงเป็นเรื่องส่วนตัว
   7.  การต่อสู้ด้วยวิธีการต่างๆ ของผู้มีแนวคิดต่างกัน
       จัดเป็นความรุนแรงประเภทใด
       ก.   ความรุนแรงทางสังคม
       ข.   ความรุนแรงทางการเมือง
       ค.   ความรุนแรงทางเศรษฐกิจ
       ง.   ความรุนแรงทางครอบครัว
   8.  ข้อใดไม่ใช่การเพิ่มแรงสนับสนุนทางสังคมเพื่อป้องกันปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและสังคม
       ก.   การสนับสนุนด้านแรงงาน
       ข.   การสนับสนุนทางอารมณ์
       ค.   การสนับสนุนทางวัตถุสิ่งของ
       ง.   การสนับสนุนทางข้อมูลข่าวสาร
   9.  ข้อใดเป็นหลักปฏิบัติที่เหมาะสมในการป้องกันความเสี่ยงต่อการใช้ความรุนแรง
       ก.   สร้างความมั่นคงในอารมณ์
       ข.   เป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน
       ค.   เล่นกีฬาที่ต้องใช้พลังงานมากๆ
       ง.   แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวบ้างตามความเหมาะสม
10.  ข้อใดเป็นแนวทางในการป้องกันปัญหาความรุนแรงในสังคมที่ไม่เหมาะสม
       ก.   มีทักษะการป้องกันตนเองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
       ข.   ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย
       ค.   จัดกำลังเฝ้าระวังปัญหาอาชญากรรม
       ง.   แยกตัวอยู่เพียงลำพัง



หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
การช่วยฟื้นคืนชีพ

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การช่วยฟื้นคืนชีพ ควรปฏิบัติอย่างไรในขั้นตอนแรก
       ก.   สังเกตการตอบสนองของผู้ป่วย
       ข.   ช่วยเหลือเบื้องต้นโดยวิธีเป่าปาก
       ค.   ใช้แก้มแนบใกล้ปากผู้ป่วยเพื่อสัมผัสลมหายใจ
       ง.   เรียกคนที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ
   2.  การเสียชีวิตที่เกิดจากเนื้อสมองตายมีสาเหตุจากข้อใด
       ก.   หัวใจหยุดการบีบตัวผิดจังหวะ
       ข.   ขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน
       ค.   รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
       ง.   ผู้ป่วยหัวใจวาย
   3.  บาดแผลที่มีเลือดสีแดงพุ่งออกมาตามจังหวะการเต้น  ของหัวใจ น่าจะเป็นเลือดที่มาจากส่วนใด
       ก.   หลอดเลือดแดง   
       ข.   หลอดเลือดฝอย
       ค.   หลอดเลือดดำ    
       ง.   หลอดเลือดจากหัวใจ
   4.  การช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยด้วยการกดหน้าอก สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคืออะไร
       ก.   เพศและวัยของผู้ป่วย
       ข.   น้ำหนักตัวของผู้ป่วย
       ค.   น้ำหนักที่กดลงไปที่บริเวณซี่โครง
       ง.   น้ำหนักตัวของผู้ให้ความช่วยเหลือ
   5.  ผู้ป่วยที่มีลักษณะการบาดเจ็บในข้อใด ไม่ควรเคลื่อนย้ายด้วยวิธีให้นั่ง
       ก.   แขนหัก
       ข.   เท้าแพลง
       ค.   ปวดศีรษะรุนแรง
       ง.   กระดูกเชิงกรานหัก
6. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยใช้เปล เหมาะกับผู้ป่วยที่มีลักษณะอาการใด
       ก.   ผู้ป่วยที่หมดสติ
       ข.   ผู้ป่วยที่รู้สึกตัวดี
       ค.   ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัวมาก
       ง.   ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
   7.  หากนักเรียนพบผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวเพียงลำพัง นักเรียนจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยวิธีใด
       ก.   การอุ้มแบก
       ข.   การอุ้มทาบหลัง
       ค.   การอุ้มพยุงเดิน
       ง.   การอุ้มกอดด้านหน้า
   8.  การห้ามเลือดในส่วนใดของร่างกายที่จำเป็นจะต้องใช้วิธี Pad and Bandage
       ก.   บริเวณฝ่ามือ            
       ข.   บริเวณต้นคอ
       ค.   บริเวณต้นแขน         
       ง.   บริเวณใต้ข้อพับของข้อศอกหรือข้อเข่า
   9.  หากเกิดอุบัติเหตุควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด
       ก.   ศูนย์นเรนทร           
       ข.   ศูนย์วิกฤติสุขภาพจิต
       ค.   เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าวกรอง
       ง.   สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน
10.  ผู้ป่วยในข้อใดจะต้องได้รับการช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายทันที
       ก.   กระดูกแขน–ขาหัก
       ข.   บาดเจ็บบริเวณศีรษะ
       ค.   หัวใจหยุดเต้นกะทันหัน
       ง.   กระดูกเชิงกรานหัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น