ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1


หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ความสำคัญของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อต่อวัยรุ่น

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ส่วนประกอบใดของสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า การยิ้ม และการยักคิ้ว
         ก.   สมองส่วนกลาง
         ข.   เซรีเบลลัม
         ค.   เซรีบรัม
         ง.    พอนส์
    2.  ระบบประสาทซิมพาเทติก มีผลต่อการทำงานของร่างกายอย่างไร
         ก.   ความดันโลหิตลดลง
         ข.   เส้นเลือดคลายตัว
         ค.   หัวใจเต้นช้าลง
         ง.    รูม่านตาขยาย
    3.  เวลาตื่นเต้นหรือตกใจ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่าอะไร
         ก.   นอร์อะดรีนาลิน
         ข.   ออกซิโทซิน
         ค.   อะดรีนาลิน
         ง.    เอฟิเนฟริน
    4.  ในเพศชายมีอัณฑะทำหน้าที่ผลิตอสุจิและสร้างฮอร์โมนชนิดใด
         ก.   เทสโทสเตอโรน
         ข.   โปรเจสเตอโรน
         ค.   โพรแลกติน
         ง.    เอสโตรเจน
    5.  ฮอร์โมนชนิดใดทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโต
         ของเต้านมและผลิตน้ำนมหลังคลอดบุตร
         ก.   โพรแลกติน
         ข.   เอสโตรเจน
         ค.   เอฟิเนฟริน
         ง.    กลูคากอน
6. ต่อมใต้สมองเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร
         ก.   ต่อมพาราไทรอยด์
         ข.   ต่อมพิทูอิทารี
         ค.   ต่อมไทรอยด์
         ง.    ต่อมไพเนียล
    7.  เด็กชายต้นน้ำมีอาการไอ และอาเจียน เป็นการควบคุมของสมองส่วนใด
         ก.   เมดัลลา ออบลองกาตา
         ข.   ไฮโพทาลามัส
         ค.   เซรีเบลลัม
         ง.    ทาลามัส
    8.  อวัยวะใดในร่างกายของคนเราที่ทำหน้าที่เป็นทั้งต่อม       มีท่อและต่อมไร้ท่อ
         ก.   ไขสันหลัง
         ข.   ตับอ่อน
         ค.   อัณฑะ
         ง.    สมอง
    9.  โรคคอพอกเกี่ยวข้องกับต่อมไร้ท่อใดในร่างกาย
         ก.   ต่อมพาราไทรอยด์    
         ข.   ต่อมไทรอยด์
         ค.   ต่อมไทมัส
         ง.    ต่อมเพศ
  10.  สมองส่วนใดที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด และความจำ
         ก.   ไฮโพทาลามัส
         ข.   ทาลามัส
         ค.   เซรีบรัม
         ง.    พอนส์




หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
วัยรุ่นกับการเจริญเติบโตตามเกณฑ์มาตรฐาน

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นการเจริญเติบโตของวัยรุ่นที่มีผลมาจากสภาพแวดล้อมทางสังคม
         ก.   สมานคึกคะนองมากจึงเกิดอุบัติเหตุ
                ด้วยรถจักรยานยนต์บ่อยๆ
         ข.   สมพรรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ทุกวัน
                เพราะมีแม่คอยเอาใจใส่
         ค.   พ่อแม่ของวีระทะเลาะกันทุกวัน
                ทำให้วีระเป็นเด็กก้าวร้าว
         ง.    วันชนะชอบออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ทุกวัน
    2.  พัฒนาการของวัยรุ่นในข้อใดที่เป็นภัยต่อสังคม
         ก.   สมบัติมักจะฝันเปียกทุกวัน
         ข.   สาครชอบคิดนอกกรอบและทำตามเพื่อนในทุกเรื่อง
         ค.   รินลดาชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวเมื่ออยู่ที่บ้าน
         ง.    อลงกรณ์มีรูปร่างกำยำ เริ่มมีหน้าอก และมีสะโพกผาย
    3.  ใครไม่ได้ปฏิบัติตนตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ
         ก.   นงลักษณ์พบทันตแพทย์ปีละ 2 ครั้ง  
         ข.   กชกรตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี
         ค.   ชิดชนกหมั่นหากิจกรรมที่แปลกใหม่ทำอยู่เสมอ
         ง.    งามตาพบจิตแพทย์ทุกวันเพื่อดูแลสุขภาพจิต
    4.  บุคคลในข้อใดมีการพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตสมวัย
         ก.   วาสนาเข้ากับคนง่ายและชอบทำงานเป็นกลุ่ม
         ข.   อาภรณ์มีโลกส่วนตัวสูงและชอบทำกิจกรรมคนเดียว
         ค.   สุภาพนั่งสมาธิทั้งวันทั้งคืนเพื่อพัฒนากายและจิต
         ง.    นาคาเข้าใจผู้อื่นมากกว่าเข้าใจตนเอง
    5.  สุชาติมีอายุ 20 ปี มีน้ำหนักตัว 65 กิโลกรัม และมีส่วนสูง 175 เซนติเมตร แสดงว่าสุชาติ มีค่า BMI เท่าไร
         และอยู่ในระดับใด
         ก.   มีค่า BMI เท่ากับ 21.44 และมีน้ำหนักตัวปกติ
         ข.   มีค่า BMI เท่ากับ 21.22 และมีน้ำหนักตัวปกติ
         ค.   มีค่า BMI เท่ากับ 0.19 และมีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน
         ง.    มีค่า BMI เท่ากับ 20.97 และมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
6. การประเมินภาวะการเจริญเติบโตของวัยรุ่น
         นิยมใช้วิธีการใด
         ก.   การตรวจสุขภาพร่างกาย
         ข.   การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
         ค.   การตรวจวัด EQ และ IQ โดยแพทย์
         ง.    การชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง
    7.  ภาวะการเจริญเติบโตของใครที่เป็นไปตามช่วงของวัยรุ่น
         ก.   เด็กชายเอมีผมหงอกขึ้นหลายเส้น
         ข.   เด็กหญิงบีมีน้ำหนักและส่วนสูงลดลง
         ค.   เด็กหญิงแอลเริ่มมีประจำเดือน
         ง.    เด็กชายซีเริ่มมีหน้าอกและสะโพกผาย
    8.  ปัจจัยในข้อใดที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของวัยรุ่น
         ก.   สมหญิงได้รับโครโมโซม x จากพ่อ
         ข.   สมชายตัวเตี้ยเพราะมีพ่อและแม่สูง
         ค.   พ่อของสมหวังเป็นโรคโลหิตจางทำให้สมหวัง
                มีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าคนปกติ
         ง.    สมหมายเจริญเติบโตในชุมชนที่เสื่อมโทรมทำให้มี       พัฒนาการเจริญเติบโตในด้านต่างๆ ดีกว่าคนทั่วไป
    9.  การลดน้ำหนักในข้อใดที่ปลอดภัยและได้ผลดีที่สุด
         ก.   การควบคุมอาหารทุกมื้อ
         ข.   การออกกำลังกายทุกวัน
         ค.   การใช้ยาลดความอ้วน
         ง.    การงดรับประทานอาหารบางมื้อ
  10.  การควบคุมน้ำหนักอย่างไรเป็นวิธีที่ถูกต้อง
         ก.   รับประทานอาหารเย็นมากกว่ามื้ออื่นๆ             
         ข.   งดรับประทานอาหารเช้าและเที่ยง
         ค.   รับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำ
         ง.    รับประทานเฉพาะผักและผลไม้เท่านั้น



หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
วัยรุ่นและพัฒนาการทางเพศ

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของวัยรุ่นหญิง
       ก.   ใบหน้าสดใส
       ข.   มีประจำเดือน
       ค.   เริ่มมีหน้าอก
       ง.   มีไหล่กว้างมากขึ้น
   2.  การระบายอารมณ์ที่ถูกต้องเหมาะสม ตรงกับข้อใด
       ก.   ปอชวนเพื่อนเล่นเกมออนไลน์
       ข.   ป่านชวนเพื่อนไปเดินห้างสรรพสินค้า
       ค.   ป้างชวนเพื่อนเล่นฟุตบอลที่สนามในหมู่บ้าน
       ง.   โป้งชวนเพื่อนไปขับขี่จักรยานยนต์
   3.  ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางเพศ
       ก.   การมีประสบการณ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสม
       ข.   พันธุกรรม
       ค.   การเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องตามเพศจากครอบครัว
       ง.   สภาพแวดล้อม สิ่งยั่วยุต่างๆ จากสังคม
   4.  ต่อมที่มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้เกิดลักษณะเฉพาะ เช่น เสียงห้าว คือต่อมใด
       ก.   ต่อมหมวกไต    
       ข.   ต่อมไพเนียล
       ค.   ต่อมไทรอยด์
       ง.   ต่อมเพศ
   5.  ฝันเปียก มีความหมายตรงกับข้อใด
       ก.   การหลั่งน้ำอสุจิขณะนอนหลับ
       ข.   การฝันขณะนอนหลับกลางคืน
       ค.   การมีน้ำลายไหลขณะนอนหลับ
       ง.   การมีเพศสัมพันธ์ขณะนอนหลับ

6. เมื่อร่างกายขาดธาตุไอโอดีน ต่อมไทรอยด์จะมีลักษณะอย่างไร
       ก.   ต่อมไทรอยด์จะมีลักษณะคงที่
       ข.   ต่อมไทรอยด์จะมีลักษณะหดตัวสั้นลงกว่าปกติ
       ค.   ต่อมไทรอยด์จะมีลักษณะที่ยืด หดตัวอยู่ตลอดเวลา
       ง.   ต่อมไทรอยด์จะมีลักษณะขยายตัวใหญ่ขึ้น
   7.  การสร้างฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญอาหาร
       เป็นหน้าที่ของต่อมในข้อใด
       ก.   ต่อมเพศ
       ข.   ต่อมหมวกไต
       ค.   ต่อมไทรอยด์
       ง.   ต่อมไพเนียล
   8.  การเบี่ยงเบนอารมณ์ทางเพศส่งผลดีอย่างไร
       ก.   ทำให้มีความสุขในการทำกิจกรรมอื่นๆ
       ข.   ทำให้สมองปลอดโปร่ง
       ค.   ทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น
       ง.   ทำให้มีปัญหาทางเพศลดลง
   9.  ข้อใดไม่จัดว่าเป็นพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ
       ก.   เลียนแบบพฤติกรรมของเพศตรงข้าม
       ข.   มีเอกลักษณ์ทางเพศตามสถานภาพตนเอง
       ค.   พูดจาหรือหยอกล้อในเรื่องลามก
       ง.   มีการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ
10.  เมื่อถึงวัยชรา ต่อมในข้อใดมีลักษณะการเจริญเติบโตช้าลง
       ก.   ต่อมหมวกไต         
       ข.   ต่อมไทมัส
       ค.   ต่อมไพเนียล
       ง.   ต่อมไทรอยด์



หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
การป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. สถานที่ใดมีความเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ     มากที่สุด
       ก.   บ้าน                      ข.  โรงเรียน
       ค.   ห้างสรรพสินค้า        ง.   ห้องน้ำสาธารณะ
   2.  การอยู่บ้านที่ปลอดภัย ควรปฏิบัติอย่างไร
       ก.   น้ำฝนปิดไฟบริเวณบ้านในเวลากลางคืน
       ข.   มะลิติดตั้งเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติ
       ค.   น้ำอิงสอบถามคนแปลกหน้าให้แน่ชัดก่อนเปิดประตู      รับเข้าบ้าน
       ง.   ชบาติดหมายเลขโทรศัพท์สถานีตำรวจ ญาติ
            ไว้ใกล้เครื่องรับโทรศัพท์
   3.  เทคนิคการใช้สิ่งของใกล้ตัวเป็นอาวุธ ข้อใดใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม
       ก.   ใช้ปากกาข่วนใบหน้าคนร้าย          
       ข.   ใช้กุญแจแทงบริเวณใต้ลูกกระเดือกคนร้าย
       ค.   ใช้ร่มแทงบริเวณใต้คางคนร้าย
       ง.   ใช้หวีทิ่มหลังมือคนร้าย
   4.  การผัดผ่อนเป็นทักษะในการปฏิเสธเพื่อจุดประสงค์ใด
       ก.   เพื่อยืดระยะเวลาออกไปเพื่อให้ฝ่ายหนึ่งเกิดเปลี่ยนใจ
       ข.   เพื่อปฏิเสธอย่างรักษาน้ำใจ
       ค.   เพื่อหาทางเลี่ยงจากสถานการณ์นั้นๆ
       ง.   เพื่อหากิจกรรมอื่นที่ไม่เป็นการเสี่ยงมาทดแทน
   5.  หากเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ควรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานใด
       ก.   มูลนิธิเพื่อนหญิง
       ข.   มูลนิธิศุภนิมิต
       ค.   มูลนิธิทองใบทองเปาด์
       ง.   มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
6. พฤติกรรมในข้อใดจัดเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ
       ก.   รับประทานอาหารด้วยกันเพียงลำพัง
       ข.   ส่งข้อความหรือรูปภาพที่ส่อในทางเพศ
       ค.   ออกกำลังกายร่วมกันในที่สาธารณะ
       ง.   ยืนเบียดเสียดกับเพศตรงข้ามในรถโดยสารสาธารณะ
   7.  ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
       ก.   นุ่งกระโปรงสั้นมาก
       ข.   สวมใส่เสื้อผ้าบางๆ
       ค.   พูดจาไพเราะอ่อนหวาน
       ง.   อยู่ในที่เปลี่ยวเพียงลำพัง
   8.  อาการหวาดกลัวและหวาดระแวงคนอื่นที่เกิดจากภัย    การล่วงละเมิดทางเพศ จัดเป็นผลกระทบทางด้านใด
       ก.   ผลกระทบด้านจิตใจ
       ข.   ผลกระทบด้านร่างกาย
       ค.   ผลกระทบด้านสังคม
       ง.   ผลกระทบด้านบุคลิกภาพ
   9.  การล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
       ก.   ทำให้สังคมได้รับความยุติธรรม
       ข.   ทำให้สังคมได้รับความอับอาย
       ค.   ทำให้สังคมได้รับความเสียหาย
       ง.   ทำให้สังคมได้รับความปลอดภัย
10.  หากถูกล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งใดเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกในการป้องกันภัย
       ก.   การมีสติ          
       ข.   การพูดจาไพเราะ
       ค.   ความว่องไว
       ง.   ความเชื่อมั่นในตนเอง



หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
วัยรุ่นกับโภชนาการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ถ้ามื้อเช้ากินข้าวต้มแล้ว มื้อกลางวันควรกินอาหารตามข้อใด จึงจะตรงตามหลักโภชนบัญญัติ
       ก.   ก๋วยเตี๋ยว              
       ข.   สลัดผัก
       ค.   ยำผลไม้                
       ง.   ส้มตำ
   2.  เพราะเหตุใด เราจึงควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
       ก.   ทำให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน
       ข.   ทำให้มีหน้าตาสวยงาม
       ค.   ทำให้เลือกซื้ออาหารได้ง่าย
       ง.   ทำให้มีรูปร่างดี
   3.  ข้อใดไม่ใช่หลักโภชนบัญญัติ
       ก.   ดื่มนมให้เหมาะสมกับวัย
       ข.   กินพืชผักและผลไม้เป็นประจำ
       ค.   หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรสจัด
       ง.   กินเนื้อสัตว์ติดมันมากๆ
   4.  รายการอาหารใน 1 วัน ข้อใดเหมาะสมกับเด็กวัยเรียนมากที่สุด
       ก.   น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ยำวุ้นเส้น
       ข.   ข้าวต้มกุ้ง ส้มตำ ข้าวหมกไก่
       ค.   โจ๊กหมูใส่ไข่ ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว ข้าวแกงเขียวหวานหมู
       ง.   ข้าวไข่เจียว ข้าวขาหมู ไข่ตุ๋น
   5.  การดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ควรปฏิบัติอย่างไร
       ก.   แปรงฟันเฉพาะตอนเช้า
       ข.   ดื่มนมเป็นประจำทุกวัน
       ค.   ดื่มน้ำน้อยๆ ฟันจะได้สวย
       ง.   ทาน้ำหอมเมื่อไม่ได้อาบน้ำ
6. พฤติกรรมเกี่ยวกับสุขภาพใดที่ควรปรับปรุง
       ก.   อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง
       ข.   ไม่ออกกำลังกาย
       ค.   ตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง
       ง.   รับประทานอาหารมื้อเย็นน้อย
   7.  พฤติกรรมสุขภาพที่ดี คือพฤติกรรมในข้อใด
       ก.   ดื่มกาแฟก่อนอาหาร
       ข.   หลังรับประทานอาหารควรนอนพักผ่อน
       ค.   ออกกำลังกาย
       ง.   หยุดใช้ยาเมื่อการอักเสบหาย
   8.  นักเรียนคิดว่า พฤติกรรมใดที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร
       ก.   ดื่มน้ำมากๆ
       ข.   ล้างมือก่อนกินอาหาร
       ค.   แปรงฟันหลังจากตื่นนอนตอนเช้า
       ง.   กินอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
   9.  พฤติกรรมใดต่อไปนี้ไม่ใช่โภชนบัญญัติ
       ก.   การกินอาหารครบ 5 หมู่
       ข.   การดื่มน้ำชา กาแฟ
       ค.   การดื่มนมสด
       ง.   การออกกำลังกายเป็นประจำ
10.  ข้อใดเป็นการปฏิบัติตามธงโภชนาการ
       ก.   เด็กวัยเรียนควรงดกินอาหารเช้า     
       ข.   ผู้ใหญ่ควรดื่มนมสด วันละ 1 แก้ว
       ค.   ผู้สูงอายุควรกินเนื้อสัตว์ให้มากๆ
       ง.   เด็กวัยรุ่นควรกินอาหารประเภทวิตามิน



หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
สมรรถภาพทางกาย

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การวิ่งซิกแซ็กเป็นการทดสอบสมรรถภาพทางกายในด้านใด
       ก.   ความว่องไวหรือความคล่องตัว
       ข.   ความสมดุลหรือการทรงตัว
       ค.   พลังหรือกำลังของกล้ามเนื้อ
       ง.   ความเร็ว
   2.  พฤติกรรมใดเป็นการสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายที่ไม่ถูกต้อง
       ก.   ทำกิจกรรมสันทนาการ เพื่อคลายกล้ามเนื้อและความเครียด
       ข.   ให้รางวัลแก่ตนเอง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมาย           ที่กำหนดไว้
       ค.   เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับความชอบและความถนัดของตนเอง
       ง.   ใช้สารกระตุ้นในระหว่างการเสริมสร้างและปรับปรุง     สมรรถภาพ
   3.  การทดสอบในข้อใด จัดเป็นการทดสอบความเร็วทุกรายการ
       ก.   วิ่งเร็ว 50 เมตร วิ่งเร็ว 100 เมตร
       ข.   กระโดดไกล ดึงข้อราวเดี่ยว
       ค.   ทุ่มน้ำหนัก วิ่งเร็ว 100 เมตร กระโดดสูง
       ง.   วิ่งเก็บของ ลุก-นั่ง 30 วินาที ดึงข้อราวเดี่ยว
   4.  ข้อใดเป็นวิธีการทดสอบพลังหรือกำลังของกล้ามเนื้อ
       ก.   การดันพื้น              ข.  การยกน้ำหนัก
       ค.   การยืนด้วยมือ         ง.   การกระโดดสูง
   5.  ถ้าทดสอบด้วยการดันพื้น เป็นการทดสอบสมรรถภาพด้านใด
       ก.   ทดสอบความอดทน
       ข.   ทดสอบความว่องไว
       ค.   ทดสอบความอ่อนตัว
       ง.   ทดสอบความสมดุล
   6.  ถ้าต้องการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของร่างกาย ควรทดสอบตามรายการใด
       ก.   การทุ่มน้ำหนัก        ข.  การยกน้ำหนัก
       ค.   การยืนอยู่กับที่        ง.   การวิ่งซิกแซ็ก
7. ข้อใดอธิบายความหมายของคำว่า สมรรถภาพทางกาย ได้ถูกต้องที่สุด
       ก.   ความพร้อมของร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ
            ที่ท้าทาย
       ข.   ความแข็งแรงของร่างกายในการออกกำลังกายอย่างหนัก
       ค.   ความสามารถของระบบต่างๆ ของร่างกายในการ     ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
       ง.   ความสมบูรณ์ของร่างกายในการทนต่อสภาพอากาศต่างๆ
   8.  ใครเป็นผู้มีสุขภาพดี
       ก.   สมไม่รับประทานอาหารเย็น เพราะเกรงว่าจะทำให้อ้วน
       ข.   สายนิยมรับประทานขนมขบเคี้ยว
            และไม่ออกกำลังกาย
       ค.   สาวรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
            และออกกำลังกายเป็นประจำ
       ง.   สวยชอบรับประทานอาหารรสจัด และออกกำลังกาย     เมื่อมีเวลา
   9.  ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกาย
       ก.   ความคล่องตัว
       ข.   ความสมดุลหรือการทรงตัว
       ค.   ความอดทนในการใช้กำลัง
       ง.   พลังหรือกำลังของกล้ามเนื้อ
10.  ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย
       ก.   ทำให้รูปร่างดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง     
       ข.   ทำให้มีบุคลิกภาพดี สามารถเคลื่อนไหวได้อย่าง
            สง่างาม คล่องแคล่ว
       ค.   ทำให้มีพลังงานสำรองเพื่อใช้ในการทำกิจกรรม     นันทนาการ หรือใช้กรณีฉุกเฉิน      
       ง.   ทำให้ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง




หน่วยการเรียนรู้ที่ 7
การปฐมพยาบาลและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างปลอดภัย

คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดเป็นลักษณะของบาดแผลตัด
       ก.   มีอาการฟกช้ำบริเวณแผล  
       ข.   แผลฉีกขาดที่มีขอบแผลไม่เรียบ
       ค.   แผลฉีกขาดที่มีขอบแผลเรียบ
       ง.   มีอาการบวมแดง คล้ำ หรือเขียว
   2.  บาดแผลถูกแทง หากมีสิ่งใดหักคาอยู่ในแผล
       ผู้ปฐมพยาบาลควรทำอย่างไร
       ก.   ดึงสิ่งที่หักคาอยู่ออกโดยเร็ว
       ข.   นำส่งสถานพยาบาลโดยเร็ว
       ค.   ขยับดูว่าบาดแผลมีความลึกมากแค่ไหน
       ง.   พันผ้ารอบสิ่งที่หักคาอยู่เพื่อให้อยู่นิ่ง
   3.  ข้อใดเป็นลักษณะของบาดแผลที่ถูกงูมีพิษกัด
       ก.   ไม่มีรอยฟัน แต่มีรอยเขี้ยว
       ข.   มีรอยฟัน แต่ไม่มีรอยเขี้ยว
       ค.   มีรอยเขี้ยวอยู่ด้านหน้าของขากรรไกรบนและมีรอยฟัน
       ง.   มีรอยเขี้ยวอยู่ด้านหลังของขากรรไกรบนและมีรอยฟัน
   4.  การปฐมพยาบาลเมื่อเลือดกำเดาไหล ควรทำอย่างไร
       ก.   ให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ และก้มศีรษะไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบจมูกให้แน่นประมาณ 6-10 นาที
       ข.   สั่งน้ำมูกแรงๆ เพื่อให้เลือดที่ไหลออกมาให้หมด
       ค.   บีบจมูกให้แน่นประมาณ 30 นาที เพื่อให้เลือดหยุดไหล
       ง.   ให้ผู้ป่วยยืนขึ้นและก้มศีรษะลงเพื่อให้เลือดหยุดไหลเอง
   5.  การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยใช้ผู้ช่วยเหลือ 3 คน
       จะใช้ในกรณีใด
       ก.   กรณีที่ผู้ป่วยตัวใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก
       ข.   กรณีที่ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในท่านอน
            และผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
       ค.   กรณีที่ผู้ป่วยมีรูปร่างเล็ก และเดินไม่ได้
       ง.   กรณีที่ผู้ป่วยยังรู้สึกตัวอยู่ และสามารถเคลื่อนไหว
            ได้เล็กน้อย
6. ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการปฐมพยาบาล
       ก.   เพื่อรักษาให้ผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่
       ข.   เพื่อลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นตามมา
       ค.   เพื่อป้องกันความพิการที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง
       ง.   เพื่อช่วยชีวิตและลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย
            ให้น้อยลง
   7.  สิ่งใดที่ผู้ช่วยเหลือจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก่อนเข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย
       ก.   ทำบริเวณนั้นให้มีอากาศถ่ายเท ปลอดโปร่ง
       ข.   สำรวจระบบที่สำคัญต่างๆ ของร่างกายผู้ป่วย
       ค.   ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทันทีโดยไม่ได้เตรียมการ
       ง.   ความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุ
   8.  การห้ามเลือดบาดแผล ถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล
       ต้องทำอย่างไร
       ก.   หยุดห้ามเลือดโดยทันทีและให้เลือดหยุดไหลเอง
       ข.   รีบนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลโดยเร่งด่วนทันที
       ค.   ต้องพยายามห้ามเลือดให้หยุดไหลให้ได้
       ง.   ใช้พลาสเตอร์ปิดบริเวณบาดแผล
   9.  การกักขังสัตว์เพื่อรอดูอาการโรคพิษสุนัขบ้า ต้องกักขังไว้กี่วัน
       ก.   16 วัน                   ข.  14 วัน
       ค.   12 วัน                   ง.   18 วัน
10.  ผู้ป่วยที่มีแผลไหม้หรือถูกลวกเล็กน้อย ให้ใช้น้ำเย็นราด  ตรงบริเวณแผลอย่างน้อยกี่นาที
       ก.   20 นาที                 ข.  15 นาที

       ค.   10 นาที                  ง.  25 นาที



หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
มหันตภัยจากสารเสพติด

 คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. กระท่อมออกฤทธิ์ต่อร่างกายอย่างไร
       ก.   กระตุ้นประสาท       
       ข.   กดประสาท
       ค.   หลอนประสาท        
       ง.   หลอนประสาทและกระตุ้น
   2.  ข้อใดไม่ใช่สารเสพติดธรรมชาติ
       ก.   ฝิ่น
       ข.   ทินเนอร์
       ค.   กัญชา
       ง.   กระท่อม
   3.  โรคใดไม่ได้เกิดจากการสูบบุหรี่
       ก.   โรคหัวใจ
       ข.   โรคไต
       ค.   โรคมะเร็งปอด
       ง.   โรคถุงลมโป่งพอง
   4.  สารชนิดใดที่มีอยู่ในสุรา
       ก.   ทาร์                      
       ข.   นิโคติน
       ค.   เอทิลแอลกอฮอล์
       ง.   ไฮโดรคาร์บอน
   5.  สารเสพติดประเภทออกฤทธิ์กดประสาทจะก่อให้เกิดอาการแบบใด
       ก.   เกิดภาพหลอน
       ข.   ริมฝีปากแห้ง
       ค.   ควบคุมตนเองไม่ได้
       ง.   สมองมีอาการมึนงง
6. สารเสพติด หมายถึงอะไร
       ก.   สารหรือยาที่ต้องการเสพ
       ข.   สารหรือยาที่เสพและมีความต้องการ
       ค.   สารหรือยาที่ฉีดมีผลต่อตัวเรา
       ง.   สารหรือยาที่เสพเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลต่อร่างกาย
            และจิตใจ
   7.  สารเสพติดมีลักษณะสำคัญอย่างไร
       ก.   เป็นสารที่ใช้เสพ
       ข.   เป็นสารที่ใช้ฉีด
       ค.   เป็นสารที่เสพอย่างต่อเนื่อง
       ง.   เป็นสารที่เสพบางครั้ง
   8.  เฮโรอีน จัดเป็นสารเสพติดที่สอดคล้องกับข้อใด
       ก.   เป็นสารเสพติดประเภทที่ 4
       ข.   เป็นสารเสพติดประเภทที่ 3
       ค.   เป็นสารเสพติดประเภทที่ 2
       ง.   เป็นสารเสพติดประเภทที่ 1
   9.  ข้อใดคือผลเสียที่เกิดจากการเสพสารเสพติดมากที่สุด
       ก.   ชื่อเสียง เพื่อน        
       ข.   ทรัพย์สิน ชื่อเสียง
       ค.   เศรษฐกิจ สุขภาพกาย และสุขภาพใจ           
       ง.   ทรัพย์สิน สุขภาพ
10.  ฝิ่นออกฤทธิ์ต่อร่างกายอย่างไร
       ก.   กดประสาท            
       ข.   หลอนประสาท
       ค.   กระตุ้นประสาท       
       ง.   หลอนประสาทและกระตุ้น



หน่วยการเรียนรู้ที่ 9
การป้องกันภัยจากสารเสพติด

 คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. การใช้ความคิดในการสร้างสรรค์มีลักษณะอย่างไร
       ก.   ให้ข้อมูลแก่เยาวชน
       ข.   ประเมินปัญหาและปัจจัยต่างๆ
       ค.   ทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ
       ง.   คิดหาเหตุผลในการชักชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพติด
   2.  การปฏิเสธควรแสดงออกมาในลักษณะอย่างไร
       ก.   ชักสีหน้า               
       ข.   พูดตัดบท
       ค.   ใช้คำสุภาพ นุ่มนวล 
       ง.   ใช้เหตุผลอื่นมาอ้าง
   3.  ทักษะในการเจรจาต่อรองให้ผู้อื่นลด ละ เลิก สารเสพติด ต้องพูดอย่างไร
       ก.   เราอยากเป็นอย่างเธอจังเลย          
       ข.   ถ้าเธอเลิกเสพยา เราจะช่วยพูดกับครู
            ให้เธอกลับมาเรียนต่อได้นะ
       ค.   เราจะโทรแจ้งตำรวจนะ
       ง.   อย่าเสพยาอีกนะ ไม่อย่างนั้น เราจะบอกครู
   4.  สถาบันใดที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติด
       ก.   วัด
       ข.   ครอบครัว
       ค.   โรงเรียน
       ง.   รัฐบาล
   5.  โรงเรียนมีบทบาทที่จะทำให้เยาวชนปลอดภัยจาก             สารเสพติด ยกเว้นข้อใด
       ก.   ครูคอยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้แก่นักเรียน
       ข.   ให้ความรู้เรื่องสารเสพติด
       ค.   จัดกิจกรรมนันทนาการต่างๆ
       ง.   จับกุมผู้ค้ายาเสพติด
6. ถ้านักเรียนทราบเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด นักเรียนจะทำอย่างไร
       ก.   ใช้กำลังปราบปรามด้วยตนเอง
       ข.   ไม่สนใจ และทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใด
       ค.   รวบรวมเพื่อนๆ ในชั้นเรียน ให้ไปช่วยกันปราบปราม
       ง.   โทรศัพท์แจ้งที่หมายเลข 191
   7.  ข้อใดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการลด ละ เลิก สารเสพติด
       ก.   การให้กำลังใจจากคนรอบข้าง         
       ข.   การยอมรับจากผู้ใหญ่
       ค.   การให้อภัยจากคนรัก    
       ง.   การยอมรับจากเพื่อน
   8.  นักเรียนมีวิธีให้กำลังใจผู้ที่ติดยาเสพติดอย่างไร
       ก.   นายต้องเชื่อใจเรานะ ไปหาตำรวจกันเถอะ
       ข.   เรามั่นใจว่านายต้องทำได้ สู้ๆ
       ค.   ถ้านายไม่เลิกเสพยา เราจะแจ้งตำรวจนะ
       ง.   ต่อไป ถ้านายเสพยาอีก ชวนเราด้วยน่ะ
   9.  การเจรจาต่อรอง ควรมีลักษณะอย่างไร
       ก.   ใช้ถ้อยคำที่มีเหตุผล 
       ข.   ใช้ถ้อยคำเชิงบังคับ ข่มขู่
       ค.   ใช้อารมณ์ที่รุนแรง   
       ง.   ใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย
10.  บุคคลใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเสพติด
       ก.   น้อยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
       ข.   นิดออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
       ค.   นุชแก้ปัญหาด้วยการเผชิญหน้ากับความจริง
       ง.   นัดชอบคบคนแปลกหน้าทางอินเทอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น